น่าน สันติสุข
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  |  
 ตะกร้าสินค้า (0)  |  
 



CoolLaughingWelcome to NanLaughingCool

 
 

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์
แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

  

ตราประจำ จ. น่าน

เป็นภาพโคอุศุภราช เกี่ยวโยงกับตำนานการสร้างเมืองน่าน บนหลังโคคือ เจดีย์พระธาตุแช่แห้ง
 
เที่ยวเมืองไทยตามคำขวัญ น่าน
(คำขวัญ)
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ 

                                           แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

    
เรื่อง : ธนปกรณ์ สุขสาลี
ภาพ : ฝ่ายภาพ สารคดี

“แข่งเรือลือเลื่อง”

การแข่งเรือประเพณีชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ของ จ. น่าน บริเวณท่าน้ำสะพานพัฒนาภาคเหนือ ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ถือเป็นงานประเพณีโบราณที่ยิ่งใหญ่ จัดสืบทอดกันมายาวนานกว่า ๑๐๐ ปี

ในอดีต การแข่งเรือนิยมจัดในงานประเพณีตานก๋วยสลากหรือถวายทานก๋วยสลากภัต (ราวเดือน พ.ย.-ธ.ค.) ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้เปลี่ยนมาจัดในงานประเพณีทอดกฐินสามัคคีหลังออกพรรษา หรือราวเดือน ต.ค. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่เพิ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร จึงเป็นเวลาที่ชาวบ้านสดใสรื่นเริงที่สุดในรอบปี อีกทั้งยังเป็นฤดูน้ำหลาก น้ำท่าในลำน้ำเช่นแม่น้ำน่านเปี่ยมฝั่ง ชวนให้รื่นรมย์ยิ่งนัก

เรือที่ลงแข่งขันของ จ. น่าน ถือว่ามีเอกลักษณ์พิเศษกว่าจังหวัดอื่น คือ หัวเรือเป็นรูปหัวนาค ส่วนท้ายเรือเป็นหางนาคอย่างสวยงาม การแข่งขันแบ่งประเภทตามขนาดของลำเรือและฝีพาย มีทั้งเรือใหญ่ เรือกลาง เรือเล็ก นอกจากนี้ยังมีเรือประเภทสวยงาม


 

  

“เมืองงาช้างดำ”

น่านเป็นจังหวัดเดียวของไทยที่มีงาช้างดำเป็นสมบัติคู่บ้านคู่เมือง งาช้างกิ่งนี้แม้จะเรียกว่า “งาช้างดำ” แต่กลับมีสีน้ำตาลเข้ม มีความยาว ๙๗ ซม. เส้นรอบวง ๔๗ ซม. ส่วนปลายมน มีจารึกอักษรล้านนากำกับไว้ว่า “กิ่งนี้หนักหนึ่งหมื่นห้าพัน” (ประมาณ ๑๘ กิโลกรัม)

งาช้างดำกิ่งนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้มาอย่างไร มีเพียงตำนานเล่าต่อกันมาว่า ได้มาจากเมืองเชียงตุง เป็นสมบัติของเจ้าผู้ครองนครน่านที่ตกทอดสืบต่อกันมา ต่อมาเมื่อเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้ายถึงแก่พิราลัยในปี ๒๔๗๔ ลูกหลานจึงมอบงาช้างดำนี้ให้แก่กรมศิลปากร ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน


 

  

  

 

 

 

“จิตรกรรมวัดภูมินทร์”

จิตรกรรมฝาผนังในวิหารวัดภูมินทร์เป็นงานมรดกชิ้นเอกของ จ. น่าน นอกจากจะเป็นงานศิลปะที่งดงามแล้ว ยังเป็นภาพจิตรกรรมที่บันทึกเรื่องราวคติความเชื่อของชาวน่านในอดีต

ภาพจิตรกรรมนี้เขียนขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๔๑๐-๒๔๑๗ ในสมัยพระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน หรือในช่วงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผนังด้านทิศเหนือ ตะวันออก และใต้ เป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัย มีพระสาวกนั่งข้างละ ๒ องค์ ต่ำลงมาเป็นภาพเขียนขนาดเล็กต่อเนื่องกันตลอดทั้งสามด้าน เล่าเรื่อง “คันธกุมารชาดก”

 

 


 

ส่วนผนังด้านทิศตะวันตก ตอนบนเป็นภาพพระพุทธปางไสยาสน์เล่าพุทธประวัติตอนเสด็จปรินิพพาน มีพระอัครสาวกทั้งสี่องค์เฝ้าแหน ตอนล่างลงมาเป็นภาพเล่าเรื่อง “พระเนมีราชชาดก” นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมที่แสดงถึงวิถีชีวิตชาวน่านในอดีต เช่น ลักษณะบ้านเรือน การแต่งกาย การทอผ้าด้วยกี่ทอมือ การสักยันต์ของชาวไทลื้อหรือลาวพุงดำ ชาวต่างประเทศ เป็นต้น


“แดนดินส้มสีทอง”

ในช่วงฤดูหนาว สองฝั่งถนนหลวงของเมืองน่านจะเหลืองอร่ามไปด้วยส้มสีทอง ที่พ่อค้าแม่ค้านำออกมาวางจำหน่ายแก่ผู้สัญจร ส้มสีทองชนิดนี้ความจริงแล้วคือสายพันธุ์ส้มเขียวหวานทั่วไปนั่นเอง โดยเมื่อปี ๒๔๘๐ อ. คำรพ นุชนิยม อดีตศึกษาธิการ จ. น่าน ได้นำกิ่งตอนส้มเขียวหวานมาปลูก เมื่อออกผล แทนที่เปลือกจะมีสีเขียวเหมือนต้นพันธุ์เดิม กลับเป็นสีเหลืองทองสวยงาม ทั้งยังเปลือกบาง ซังนิ่ม และมีรสชาติอร่อยกว่าพันธุ์ดั้งเดิม คือหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ นับเป็นของดีคู่เมืองน่านนับแต่นั้นมา

เหตุที่ส้มสีทองปลูกได้ผลดีในพื้นที่ จ. น่าน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ส้มออกผลในฤดูหนาว อุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนต่างกันถึง ๘ องศาเซลเซียส ทำให้สารคาทีนอยพิกเมนต์ในเปลือกส้มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีทอง

ปัจจุบันพื้นที่ปลูกส้มสีทองใน จ. น่าน กระจายไปตามอำเภอต่าง ๆ เช่น อ. ทุ่งช้าง อ. ท่าวังผา อ. เวียงสา อ. ปัว เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ปลูกตามที่ราบเชิงเขาที่มีน้ำไหลผ่าน รวมพื้นที่ประมาณ ๑๑,๐๐๐ ไร่ มีผลผลิตประมาณ ๔,๐๐๐ ตันต่อปี

ส้มสีทองของแต่ละอำเภอจะออกผลไม่พร้อมกัน เช่น อ. ทุ่งช้าง จะออกก่อนราวเดือน พ.ย.-ธ.ค. ส่วนแถบ อ. ปัว อ. เวียงสา จะออกเป็นรุ่นที่ ๒ ราวเดือน ม.ค.-ก.พ. ซึ่งตรงกับเทศกาลส้มสีทองเมืองน่านที่จัดขึ้นประมาณเดือน ม.ค. ของทุกปี


“เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง”
พระธาตุแช่แห้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่านมาแต่โบราณ เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนเมืองน่านและจังหวัดใกล้เคียง องค์พระธาตุตั้งอยู่ภายในวิหารคด มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงล้านนา บุด้วยทองจังโก ปิดทับด้วยทองคำเปลวอีกชั้นหนึ่ง จึงมีสีเหลืองอร่ามเรืองรองงดงามตลอดทั้งองค์




ตามตำนานพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า ประมาณปี ๑๘๙๖-๑๙๐๑ หรือตรงกับช่วงต้นสมัยกรุงศรีอยุธยา เจ้าพญาการเมือง เจ้าผู้ครองนครปัว ได้เสด็จมายังกรุงสุโขทัยเพื่อช่วยพระมหาธรรมราชาลิไทสร้างวัดหลวงอภัย (วัดอัมพวนาราม) เมื่อเจ้าพญาการเมืองจะเสด็จกลับ พระมหาธรรมราชาลิไทได้พระราชทานพระธาตุ พระพิมพ์เงิน และพระพิมพ์ทอง แด่เจ้าพญาการเมืองเพื่อตอบแทนน้ำพระทัย เมื่อเจ้าพญาการเมืองเสด็จกลับมาเมืองปัว จึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์พระธาตุแช่แห้งบนยอดดอยภูเพียงแช่แห้งขึ้น เพื่อประดิษฐานองค์พระธาตุอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวน่านนับแต่นั้นมา





  

หนาวแล้วใครที่มีโอกาศมาแอ่วน่านตอนนี้ต้องเตรียมเสื้อกันหนาว

มาด้วยเพราะตอนอากาศตอนเช้าเริ่มหนาวมีหมอกสิ้นปีนี้ใครอยากมา

นอนดูดาวที่ดอยภูคา ดอยเสมอดาว ดอยภูฟ้า ภูแว ภูพยัคฆ์ น้ำตกวังเปียน ถ้ำดงข่อย

ตอนนี้มีถ้ำเปิดใหม่ที่ขุนน้ำปัวพัฒนา ตำบลภูคา อำเภอปัว ชื่อว่าถ้ำยาง-หมา ห่างจากตัวเมืองปัว 34 กิโลเมตร

ทางขึ้นไปทางเดียวกับดอยภูคา ข้างในสวยงามมากตอนนี้ ที่กำลังรอให้ท่านมาสัมผัสกับ

ความงามที่ธรรมชาติบรรจงสร้างขึ้นใครสนใจต้องติดต่อที่สโมสรโรตารีปัวเพราะการเดินทางค่อนข้างลำบาก

รถที่จะขึ้นไปเที่ยวต้องเป็นรถที่คุนเคยทางแต่ระหว่างที่ท่านเดินทางจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ น้ำตกขุนเขาที่โอบล้อม

การเดินทางมายัง อช. ดอยภูคา
รถยนต์ส่วนตัว จาก อ. ปัว วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ประมาณ 24 กม. จะพบศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านขวามือ และมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ทางซ้ายมือ ผ่านด่านไปประมาณ 600 ม. จะพบป้ายอุทยานแห่งชาติเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 200 ม. จะถึงที่ทำการ อช. ดอยภูคา
รถประจำทาง นั่งรถสายปัว-บ่อเกลือจุดชมต้นชมพูภูคา
- การเดินทาง อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ห่างจากที่ทำการไปทาง อ. บ่อเกลือ ประมาณ 4 กม.
     บริเวณนี้ได้จัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ยืนต้นสูงขึ้นมาจากในหุบเขา ต้นชมพูภูคาต้นนี้เป็นต้นเดียวกับที่ ดร. ธวัชชัย สันติสุข เป็นค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2532

แผนที่คลิก
http://www.nairobroo.com/images/province/nan/map_nan10.jpgประกาศ

สิ่งน่าสนใจอื่นๆ
น้ำตกต้นตอง
- การเดินทาง อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1256 ระหว่างด่านเก็บค่าธรรมเนียมกับที่ทำการ มีทางเดินเข้าไปถึงตัวน้ำตกระยะทาง 400 ม.เป็นน้ำตกหินปูน มีสามชั้น ความสูงรวมกันประมาณ 60 ม. สภาพโดยรอบร่มรื่นเหมาะแก่การเล่นน้ำและเที่ยวพักผ่อน
ดอยภูแว
- สนใจขึ้นยอดดอยต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางที่ที่ทำการอช.
- มีลูกหาบวันละ 150 บาท
- ที่ตั้ง อยู่ที่ อ. บ่อเกลือ ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 50 กม. จุดเริ่มต้นเดินเท้าอยู่ที่ ต. บ้านด่าน
รถยนต์ส่วนตัว จากที่ทำการ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1256 ไปทางอ. บ่อเกลือ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1081 ไปทาง อ. เฉลิมพระเกียรติ ไปจนถึงบ้านด่าน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเดินเท้า

วันที่18-23ธันวาคมนี้ งานปีใหม่ม้ง ของชุมชนชาวม้ง บ้านป่ากลางอำเภอปัวที่นี้เป็นแหล่งผลิดผ้าปักชาวเขาและ

เครื่องเงินที่มีคุณภาพ ส่งขายทั้งในและต่างประเทศให้คุณได้เข้าไปเที่ยวชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น

ใครมาน่านแล้วอยากแวะไปแอ่วตลาดห้วยโกนก็ไปได้น่ะค่ะวันเสาร์วันอาทิตย์พี่น้องชาวลาวจะเดินขบวนนำของมาขาย

ให้ได้เลือกซื้อกันมากมายหลายอย่าง ถ้าเกิดอยากไปแอ่วลาวกันน่ะเจ้า แสนจะง่ายมาก(มีpass port หรือ

นำรูปถ่าย1นิ้วครึ่ง2ใบกับเอกสารสำเนาบัตรประจำคัวประชาชน) น่านติดกับเมืองเงินแขวงไชยบุรี

ของประเทศลาวการเดินทางก็ค่อยข้างลุยๆหน่อยเพราะช่วงนี้กำลังมีการก่อสร้างถนนหนทาง

ไปเมืองหงสาส่วนถนนไปเมืองเงินหรือจะต่อเรือไปห้วยแคนนั้นแสนสบายค่ะราดยางเรียบร้อยแล้ว

แค่ประมาณสองชั่วโมงก็ถึงปากแคนนั่งเรือชมทิวทัศน์ไปหลวงพระบางได้

http://www.nan2dayradio.com/news/read.php?idnw=234

มาน่านกันเต๊อะเจ้ามีที่แอ่วให้เลือกกันเยอะแยะ

แล้วแต่ศรัทธาน่ะค่ะเพราะมาน่านยังไงก็ต้องมาเที่ยววัดเก่าแก่ที่มีอยู่มากมาย

ดอกนางพญาเสือโคร่ง(ซากูระเมืองไทย)บานสะพรั่งที่ดอยขุนสถาน
มาเก็บเอาภาพสวยๆ กันดีกว่านางพญาเสือโคร่งจะเริ่มบานประมาณกลางเดือนธันวาคม

ถึงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ปลายเดือนมกราคม ดอกชมพูภูคาก็จะเริ่มบานไปจนถึงปลายเดือนมีนาคม อย่าลืมติดไม้ติดมือกลับบ้าน ส้มสีทอง ของฝากเมืองน่าน รสหวานอมเปรี้ยว

http://www.nan2day.com/forum/index.php?topic=1509.0

หาที่พักเตรียมไว้ก้ดีน่ะค่ะเพราะคนมาเยอะมากที่ ปัวอาจจะไม่มีที่พักบางทีคงต้องไปพักแถวๆอำเภอเชียงกลาง

ที่การ์เดนโฮม บ้านนาซาว อำเภอเชียงกลางก็ดีไม่แพงสะอาดใกล้และสะดวกในการเดินทางไปด่านห้วยโก๋น

แถมใกล้ตลาดบ้านสบกอนของกินแบบเหนือเยอะและถูกดี อาทิตย์ก่อนไปเมืองหงสาล่องแม่น้ำโขงไปเที่ยวที่ปากแป่ง

ขึ้นที่ท่าปากแคนสองฝั่งโขงก็งามแต้ค่ะ เมื่อวันที่13 ธันวาเพิ่งไปตะลุยเส้นทางโครงการพระราชดำรินาขั้นบันไดหมู่

บ้านกอก-บ้านจูนมาค่ะเหนื่อยมาก ถนนเสี้นน่าน-ทุ่งช้าง เข้าทางอำเภอเชียงกลางไปทางบ้านสกาด เส้นทางวิบากมาก

มีลาดชีเมนต์เป็นหย่อมๆเล็กน้อย ส่วนมากเป็นทางลูกรังดินแดงขึ้นเขาลงเขา ขี่รถมอเตอร์ไซด์เป็นเส้นวนออกมา

ทางบ้านเตย ตำบลภูคา ดอยภูคาเส้นนี้สวยมากค่ะแต่ทางลำบาก ใครไม่ทนจริงอย่าคิดแหย่มไปเลยแต่คุ้มกับภาพ

ที่ได้ ตอนนี้มีถ้ำเปิดใหม่ชื่อถ้ำยาง-หมาข้างในสวยมาก ไปทางขุนน้ำปัวพัฒนา เดินทางขึ้นไปทางดอยภูคาเส้นหลักได้

และเลี้ยวซ้ายทางแยกเข้าบ้านน้ำปัว สังเกตุตรงปากทางจะมีชาวบ้านเอาของป่ามาขายริมทาง

เป็นเพิงหมาเหงน เส้นนี้จะเป็นทางไปตามหมู่บ้านระหว่างทางจะมีน้ำตก ถนนค่อนข้างจะแคบต้องระวะงทางโค้ง

บางช่วงจะเป็นดินแดงอยู่ มีราดซีเมนต์บางระยะ ถึงที่บ้านน้ำปัวจอดรถไว้ที่บริเวณโรงเรียนก่อน

ติดต่อผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ก่อนเดินเท้าเข้าไปเพราะว่าทางเเท้เข้าไปประมาณ45 นาทีได้ค่ะ

เข้าทางถ้ำหมาจะสะดวกกว่าเพิ่งเปิดให้เข้าเที่ยวเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  สด..ใหม่..ซิงๆ

เตรียมแสงไฟฉายไปให้พอข้างในมืดมากลึกลงไปในชั้นใต้ดิน22เมตร

เตรียมใส่หมวกกันน๊อกด้วยก็จะดี มีการลอดมุด คล้านกันตามอัธยาศัยเป็นที่สนุกสนาน

อันนี้ขอนำเสนอ ให้เป็นทางเลือกใหม่ หากจะลองเส้นทางใหม่ไปบ่อเกลือทะลุภูฟ้า

จากหมู่บ้านน้ำยาว อำเภอปัวไปก็สวยมากค่ะ ถนนดีลาดยาง ถ้าอยากหาเส้นทางใหม่ในจังหวัดน่าน

ขอให้บอกน่ะค่ะ จะแนะนำให้ค่ะ jejeilalana@Gmail.com

สถานีวิจัยต้ำน้ำขุนสถาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาน้อย การเดินทางก็ใช้

เส้นทางเดียวกับการเดินทาง มายังที่ทำการอุทยายแห่งชาติขุนสถานครับ ห่างกันเพียง 2.5 ก.ม.

(รายละเอียดเส้นทาง http://www.nan2day.com/forum/index.php?topic=1507.0 )

หากมาทางบ้านห้วยแก๊ต ก็จะถึงสถานีวิจัยต้นน้ำก่อน แต่ถ้าหาใช้เส้นทาง

อำเภอนาน้อยก็จะถึงที่ทำการอุทยานก่อน แล้วไปต่ออีก 2.5 ก.ม.  จากทีมงานน่านทูเดย์

  ....ใครที่มาเที่ยวน่านแล้วได้ภาพสวยก็ส่งมาให้กันก็ได้น่ะค่ะที่...

jejeilalana@gmail.com

 อยากเขียนเรื่องราวที่ประทับใจก็ส่งมาน่ะค่ะเพราะจะได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน

ขอบคุณค่ะทุกท่านที่มาเยี่ยมชมสำหรับคนเมืองน่านที่อยากจะฝากโฆษณาข่าวสารเรื่องราว

เกี่ยวกับเมืองน่านส่งมาได้ที่  Kaminari_jeje@hotmail.com ลงให้ฟรีค่ะ

 

(kkk) 20091021_63530.gif  

(puka) 20091011_65400.jpg(puka) 20091011_75243.jpg(puka) 20091011_65355.jpg

  

ประกาศผลกันแล้ว สำหรับ การโหวต

หา 9 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย

จาก Web นี้
http://www.9destinations.com/th/index.php


นาขั้นบันได ไม่ต้องไปดูที่บาหลี บ้านกอก-จูน

ตำบลภูคา อำเภอปัว หรือจะแว๊บไปดูโครงการพระราชดำริ

ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ที่ภูพยัคฆ์ บ้านน้ำสีพัฒนา อำเภอ เฉลิมพระเกียรติ

ขอบอกว่า กาแฟร้านภู ที่ข้างโค้งโรงพยาบาลน่าน ก็ได้ผลผลิตมาจากที่นี่

คอกาแฟไม่ควรพลาดหอม นุ่ม ละมุนลิ้น

สามารถชื้อไปเป็นของฝากที่รับรองว่า ผู้รับจะต้องประทับใจ

 

อาณาเขตน่าน

ทิศเหนือ ประกอบด้วย อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอปัว

อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอบ่อเกลือ มีพื้นที่ติดต่อกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เชียงฮ่อน-หงสา (สปป.ลาว)

ทิศตะวันออก ประกอบด้วย กิ่งอำเภอภูเพียง อำเภอแม่จริม อำเภอสันติสุข อำเภอเวียงสา

มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดแพร่ และอำเภอเวียงสามีพื้นที่ติดต่อกับแขวงไชยบุรี (สปป.ลาว)

ทิศใต้ ประกอบด้วย อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอนาน้อย

มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดแพร่

ทิศตะวันตก ประกอบด้วย อำเภอบ้านหลวง มีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพระเยา

อำเภอท่าวังผา มีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอปง จังหวัดพระเยา อำเภอสองแควมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอเชียงคำ จังหวัดพระเยา

(borth) 2009713_45306.jpg(borth) 2009713_45346.jpg(borth) 2009713_45455.jpg

ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดน่าน

มีความแตกต่างกันของฤดูกาล โดยอากาศจะร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน

และหนาวเย็น ในฤดูหนาว โดยได้รับอิทธิพล จากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

พัดพาเอาความชุ่มชื้นมาสู่ ภูมิภาคทำให้มีผลตกชุกในเดือน พฤษภาคมถึง

เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนและ จะได้รับอิทธิพลจาก

ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดพาเอาความ หนาวเย็นสู่ภูมิภาคใน

เดือน ตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ และในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน

 จะได้รับอิทธิพล จาก ลมมรสุม ตะวันออกเฉียงใต้ทำให้มี สภาพอากาศร้อน

จากสถิติของสถานีอากาศเกษตรน่านในช่วง 5 ปี ( พ.ศ.2546 - 2550 )

พบว่าอุณหภูมิต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550

อยู่ที่ระดับ 9 องศสเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดในรอบ 10 ปี

ีนั้นพบว่า ใน เดือนธันวาคมปี 2542 อากาศจะหนาว เย็นมากจนอุณหภูมิลดลงถึง1.2 องศาเซลเซียส

(วันที่ 26 ธันวาคม 2542 ) อุณหภูมสูงสุดในรอบ 5 ปี พ.ศ. 2546- 2550 สูงถึง 42 องศาเซลเซียส

ในเดือน มีนาคม2547 นอกจากนี้จังหวัดน่านยังมีสภาพภูมิประเทศ

โดยรอบเป็นหุบเขาและภุเขาสูงชันมาก ทิวเขาวางตัวในแนวเหนือใต้ทำให้

บริเวณยอดเขาสามารถรับ

ความกดอากาศสูงที่แผ่มาจากประเทศจีน ในฤดูหนาวได้อย่างทั่วถึงและ

เต็มที่ขณะเดียวกันที่ทิวเขาวางตัวเหนือใต้ทำให้เสมือนกำแพงปิดกั้นลมมรสุม

ทางทิศตะวันออก รวมทั้งยังมีระดับความสูงเฉลี่ยบนยอดเขา

กับความสูงเฉลี่ยที่ผิวแตกต่างกันมากละยังมี ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล

จากปัจจัย ทั้งหลายเหล่านี้ในตอนกลางวันถูกอิทธิพลของแสงแดดเผา

ทำให้อุณหภูมิร้อนมาก และในตอน กลางคืนจะได้รับอิทธิพลของลมภูเขา

พัดลงสู่หุบเขา

(puka) 20091011_75485.jpg(puka) 20091011_76019.jpg(puka) 20091011_76051.jpg


ทำให้อากาศเย็นในตอนกลางคืน (puka) 20091011_75442.jpg

 

(borth) 2009713_45099.jpgหมอกหน้าหนาวที่ดอยผาจิ

น่านเป็นเมืองเก่า

ที่มีศิลปวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่ สืบทอดกันมานานแต่โบราณ คือประเพณีแข่ง

เรือยาว มีเพลงพื้นบ้านก็คือเพลง ซอล่องน่านก็ร้องแซวกัน ระหว่างบ่าวสาว

http://www.youtube.com/watch?v=dskfUv5YQXA

http://www.youtube.com/watch?v=PuTpy78gaSg

http://www.youtube.com/watch?v=6xrPP7n_GuM 

ที่อยู่ในเรือ ฟ้อนล่องน่านผู้ฟ้อน (nan) 200973_50126.jpg

จะต้องเป็นผู้ชายเท่าใช้เท้าวางไว้บนขอบเรือด้านใด ด้านหนึ่งและก็ฟ้อนตาม

จังหวะของท่วงท่า ของวงกลอง ล่องน่านโดยมีคนพายเรือล่องไปตามลำน้ำน่าน

ฟ้อนเจิง ลักษณะคล้ายกับการ รำดาบนำมาประยุกต์จากการ

เรียนต่อสู้ “เจิง”นั้น ฟ้อนลายงามใช้ในขบวนแห่ครัวทาน งานบุญต่างๆ

งานสลากภัต งานกฐิน สมัยก่อนหนุ่ม สาวมักนำมาร้องซอกันในเรือยาว

เพลงซอ มักน้ำมาใช้ในงานรื่นเริงเช่นงานแต่ง งานทำบุญบ้าน งานแห่นาค เป็นต้น

ซึ่งปัจจุบันจะหาฟังหาดูได้ยากแล้วโดยเฉพาะฟ้อนล่องน่าน

ปัจจุบันนำมาประยุกต์ใหม่ และโบราณ(nan) 200973_49826.jpg(nan) 200973_50935.jpg

วัตถุและ โบราณสถาน เช่น งาช้างดำ พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุเขาน้อย วัดภูมินทร์

(watpumin) 2009611_57453.jpg

วัดสวนตาลวัดสวนตาล

ตั้งอยู่ที่ตำบลในเวียง สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมมาวดี เมื่อ พ.ศ.1770

เจดีย์มีสัญฐานงดงาม ชั้นล่างมีซุ้ม

ประตูทั้งสี่ทิศ ภายในวัดมีพระพุทธรูปที่สำคัญคือ พระเจ้าทองทิพย์

ซึ่งพระเจ้าดิโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ (nan) 200973_49997.jpg

โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1993 ลักษณะเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์

องค์ใหญ่ปางมารวิชัยประดิษฐานในวิหารสวนตาล หน้าตักกว้าง

10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้ว มีงานนมัสการและสรงน้ำ

เป็นประจำทุกปี ระหว่าง เทศกาลสงกรานต์ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองทั้งกลางวัน

และกลางคืน พระบรมธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลม่วงตึ๊ด จากตัวเมืองข้ามสะพานแม่น้ำน่าน

ไปตามเส้นทางสายน่าน-แม่จริม หรือทางหลวงหมายเลข 1168 ประมาณ 2 กิโลเมตร 

 เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่ของจังหวัดมีอายุราว 600 ปี ประดิษฐานอยู่ที่วัด

แช่แห้งตามพงศาวดารเมืองน่าน กล่าวว่าพญาการ เมืองโปรด ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุ

พระธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัยระหว่างปี พ.ศ.1897-1901 ปัจจุบันองค์เจดีย์

ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสยาวด้านละ 22.5 เมตร สูง 55.5 เมตร

บุด้วยทองเหลือง หรือทองจังโก ลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์ พระบรมธาตุแช่แห้ง

(Root) 2009610_44881.jpg

เป็นศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองของ จังหวัดน่าน ที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก ทั้ง

ประชาชนในตัวเมืองและจังหวัดใกล้เคียง และได้จัด ให้มีงานนมัสการพระบรม

ธาตุเป็น ประจำทุกปี ระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือน 6 ทางเหนือ

โดยนับทางจันทรคติ ซึ่งจะอยู่ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือ ประมาณเดือนมีนาคมทุกปี

http://www.youtube.com/watch?v=PLCmHrFuKSs

วัดช้างค้ำวรวิหาร มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป คือ

วัดช้างค้ำ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และวัดหลวงกลางเวียง

วัดนี้ตั้งอยู่กลางใจเมือง ในเขตเทศบาลเมืองน่าน เลขที่ 13 ถนนสุริยพงษ์

บ้านช้างค้ำ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ตรงข้ามวัดเป็นเทศบาล

เมืองน่าน และศาลจังหวัดน่าน ปัจจุบันสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดกู่คำ

 ศาลหลักเมืองซึ่งจะอยู่ที่วัดมิ่งเมือง

 วัดหนองบัว วัดแบบล้านนา อยู่ที่ อ. ท่าวังผา  

(Root) 2009610_46887.jpg

วัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่ที่ตำบลไชยสถาน อยู่ในเส้นทาง

เดียวกันกับวัดพญาวัด ตรงหลักกิโลเมตรที่ 2 สันนิษฐานว่ามีอายุ

ใกล้เคียงกับพระธาตุแช่แห้ง จากบนยอดเขาจะมองเห็นทิวทัศน์ด้าน

ล่างและวัดพระธาตุแช่แห้งได้อย่างชัดเจน สูงจากระดับน้ำทะเล 800 ฟุต

ในบริเวณประกอบด้วย องค์พระธาตุเขาน้อย วิหารตรีมุข

ศาลาพระเจ้าทันใจ 2 องค์ รอยพระพุทธบาทจำลอง พระแม่ธรณี ศิลาจารึก

ภาษาพื้นเมือง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง มีบันไดพญานาค 3 ห้ว 303 ขั้น

ลักษณะพระธาตุ เป็นเจดียืก่ออิฐปูนทั้งองค์ เป็นศิลปพม่าผสมล้านนา

องค์พระธาตุกว้าง 3 วา 2 ศอก เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส สูง 3 วา 3 ศอก

มีเศวตรฉัตร ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุ

ขององค์สัมมาสมเด็จพระพุทธเจ้า

http://www.youtube.com/watch?v=xuWopzWQACU

http://www.youtube.com/watch?v=nSTJGS3Xwvg

วนอุทยานถ้ำผาตูบ

อยู่ที่ตำบลผาสิงห์ ห่างจากที่ตัวจังหวัด 12 กิโลเมตร บนเส้น

ทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน-ปัว-ทุ่งช้าง ตรงหลักกิโลเมตรที่ 9-10

การเดินทางมีความสะดวกทุกฤดูกาล ถ้ำผาตูบนี้ประกอบด้วยถ้ำหลาย

ถ้ำในภูเขาหินหลายลูก แต่มีถ้ำสำคัญที่ควรชมอยู่ 2 ถ้ำ

(yodwiman) 20091012_78935.jpg

คือ ถ้ำพระ และถ้ำบ่อน้ำทิพย์ นอกจากนี้ยังมีหินงอก หินย้อย

พันธุ์ไม้ต่างๆ และชะง่อนผา เหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ได้รับการ

ประกาศเป็นวนอุทยานถ้ำผาตูบ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2521

มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 528 ไร่ แหล่งโบราณคดี เขาหินแก้ว เขาชมพู น้ำตกตาดม่าน อ.เชียงกลาง 

น้ำตกศิลาเพชร อ.ปัว(yodwiman) 20091012_78998.jpg

ตั้งอยู่ที่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 56 กม.

บนเส้นทางหลวง หมายเลข 1080 สายน่าน-ปัว ก่อนถึงอำเภอปัว

ตรงหลักกม.ที่ 41-42 มีทางแยกขวามือเข้า ทางหลวงหมายเลข 1170

ไปประมาณ 14 กม. น้ำตกศิลาเพชรเป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผามีหลายชั้นลดหลั่นกันไป

ทางด้านล่างช่วงปลายน้ำตกเนินฝายกันน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในด้าน การเกษตร

http://www.youtube.com/watch?v=ToFciyCGUBU

หมู่บ้านป่ากลาง

ตั้งอยู่ที่ตำบลศิลาแลง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 69 กม. เป็นหมู่บ้าน

ชาวเขาเผ่าแม้ว เย้า และถิ่น ซึ่งมีผลมาจากการกวาดล้างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

ในจังหวัดน่านของทางราชการ เมื่อปี พ.ศ. 2511 การจัดสร้างจะ

แยกกันอยู่ตามลักษณะเผ่า และยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ มีการผลิต

งาน หัตถกรรมที่สวยงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมและเลือกซื้อได้

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

(puka) 20091011_75442.jpg(puka) 20091011_76428.jpg

(puka) 20091011_76019.jpg(puka) 20091011_76051.jpg(puka) 20091011_76169.jpg

ซึ่งมีต้นดอกชมพูภูคาหนึ่งเดียวในโลกเป็นต้นไม้โบราณ

หาชมได้ที่จังหวัดน่านที่เดียวเท่านั้น

(puka) 20091011_75243.jpg(puka) 20091011_65355.jpg

จะบานประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม


(puka) 20091011_65400.jpg

แหล่งโบราณคดี

ดอยภูซาง

เตาเผาโบราณบ้านบ่อสวก

ของแปลกที่หาดูได้ยากก็มีเช่น

ต้นดิกเดียม วัดบ้านปรางค์ อำเภอปัว

 (nan) 200973_49693.jpg(nan) 200973_49752.jpg

เวลาปรบมือเสียงดัง ใบไม้ต้นดิกเดียมก็จะมีการสั่นไหว อยู่ที่วัดปรางค์อำเภอปัว

ต้นยวงผึ้ง อายุประมาณ 512 ปี วัดบ้านส้านแหล่ง หมู่ 3 ต.สถาน อ.ปัว

ประวัติ ต้นยวงผึ้ง

รางวัลชนะเลิศ โครงการประกวดต้นไม้ยักษ์ ในพื้นที่เขตจังหวัดน่าน

ประเภท (ต้นยวงผึ้ง) วัดโคลนต้นได้ 24 เมตร ( 24 คนโอบ )

ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus albipla (Miq)King (T)

ชื่อวงค์ Maracear

ชื่อท้องถิ่น แหลง , เลียงผึ้ง , ต้นผึ้ง , แสลง

ลักษณะไม้ยืนต้นขนาดใหญ่  ประเภทไม้เนื้ออ่อน เปลีอกเรียบสีเทา

ใบเป็นใบเดียว ผลกลมแป้น มีขนสั้นปกคลุม ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง

 http://www.youtube.com/watch?v=oeb60FKe-z8

ฮ้อมจ้อม

(nan) 200973_50093.jpg

http://www.youtube.com/watch?v=6hgNNwzvqS4

คนต่างถิ่นอาจจะงงกับ

คำนี้แต่ถ้า ถามหาเขาดินอำเภอนาน้อยละก็น่าจะเข้าใจง่าย สำหรับคนต่างถิ่น ฮ้อมจ้อม

เสาดินที่ถูกลมฝนกัดเซาะเป็นเวลาหายพันปี จึงมีสภาพแปลกตาให้กับผู้พบเห็น

ตั้งอยู่ตำบลเชียงของ ห่างจากตัวเมืองน่าน ๖๐ กิโลเมตร จากอำเภอนาน้อย

มีทางแยกไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๓ ประมาณ ๖ กิโลเมตร เป็น

เสาดินมีลักษณะแปลกตาคล้าย “แพะเมืองผี” จังหวัดแพร่

จากหลักฐานทางธรณีวิทยา

พบว่าเสาดินนาน้อยเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก

ในยุคเทอร์เชียรีตอนปลาย

ประกอบกับการกัดเซาะของน้ำและลมตามธรรมชาติ

นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่ามีอายุประมาณ ๑๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว เคยเป็นก้นทะเลมาก่อน และจากหลักฐาน  การค้นพบกำไลหินและ ขวานโบราณที่นี่ (ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน) แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้อาจเคยเป็นแหล่งอาศัยของมนุษย์ยุคหินเก่านอก  จากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ แก่งหลวง ห่างจากอำเภอนาน้อยประมาณ ๓๕ กิโลเมตร เส้นทาง  เข้าถึงแก่งหลวงลำบากมาก เป็นเกาะแก่งตามธรรมชาติ เกิดจากกระแสแม่น้ำน่าน ไหล  ผ่านโขดหินที่กระจายอยู่กลางแม่น้ำ ในหน้าน้ำจะได้ยินเสียงน้ำกระทบโขดหินดังกึกก้อง ยามหน้าแล้งจะมองเห็นแนวโขดหิน และหาดทรายสีขาวเป็นแนวยาวตามริมฝั่งแม่ น้ำน่าน ลงเล่นน้ำได้ช่วงหน้าแล้งเดือนเมษายนเท่านั้น เพราะหน้าฝนน้ำจะเชี่ยวมากและเป็นอันตรายอาจทำให้จมน้ำได้

ผาหัวสิงห์และดอยเสมอดาว (nan) 200973_50160.jpg

(Root) 2009610_53025.jpg(Root) 2009610_50659.jpg(Root) 2009610_50628.jpg

อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๑๖ สายนาน้อย-ปางไฮ เป็นจุดชม

ทิวทัศน์บนยอดหน้าผาสูงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ ๓๖๐ องศา

มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา สำหรับพักผ่อนและดูดาว ดูพระอาทิตย์ตก

หากจะเดินขึ้นไปบนผาสิงห์ (เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายหัวสิงห์) ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ เส้นทางมีระยะ ๒ กิโลเมตร ระหว่างทางจะพบต้นจันทน์ซึ่งเป็นไม้เด่น และเมื่อท้องฟ้าแจ่มใส จากผาสิงห์สามารถมองเห็น อำเภอนาน้อย  อ.เวียงสา และแม่น้ำน่านได้ น้ำไหลลงรู เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้เองเป็นน้ำตกใหญ่ไหล มาตามธารน้ำไหลลงไปในรูขนาดไม่กว้าง โดยไม่ทราบว่าไหลเข้าไปในรูแล้วจะไปออก ตรงไหน เพราะยังไม่ได้มีการสำรวจเป็นทางการ

บ่อเกลือธรรมชาติ ปัจจุบันมี ๒ บ่อ เป็นบ่อที่เกิดตามธรรมชาติ

อยู่ที่อำเภอบ่อเกลือ โดยใช้น้ำที่ตักจากบ่อมาต้มก็จะได้ เกลือสินเทา

http://www.youtube.com/watch?v=SEzj6tczQdg

ถ้าท่านได้ทางมาจังหวัดน่าน

และชื่นชอบกับธรรมชาติท่านจะพบกับสถาน

ที่หลากหลาย ผู้คนที่อัธยาศัยไมตรีให้กับคนต่างบ้านต่างเมือง

และยินดีต้อนรับทุกท่าน

 (borth) 2009713_45099.jpg(nan) 200973_50199.jpg

(borth) 2009713_45062.jpg

 

 

 

 

 

 

 

เก็บภาพงานกว่างมาฝาก

 

(kwarng) 20091012_78732.jpg(kwarng) 20091012_78668.jpg

(kwarng) 20091012_78641.jpg(kwarng) 20091012_78687.jpg

(kwarng) 20091012_78576.jpg(kwarng) 20091012_78794.jpg

 

 

(kwarng) 20091012_78703.jpg(kwarng) 20091012_78815.jpg(kwarng) 20091012_78751.jpg

(kwarng) 20091012_78751.jpg

มีของฝากจากเมืองน่าน ..ดูได้ที่ตะกร้าขายของ ด้านบนขวามือ

<a href="http://www.moohin.com">

<img height="60" src="http://www.moohin.com/pictures/moohin-truehits.gif" width="60" border="1">

<br>ท่องเที่ยว</a>

 <a href="http://www.moohin.com">ข้อมูลท่องเที่ยว</a>

 

 

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 92,349 Today: 6 PageView/Month: 820

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...